เครดิตภาพ : https://www.trucsdenana.com/wp-content/uploads/2017/06/produit-pousse-cheveux.jpg
ไม่ว่าใครๆ ก็อยากมีผมสวย ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงเลือกใช้แชมพูหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มุ่งเน้นเฉพาะเส้นผมเท่านั้น ทำให้ละเลยส่วนสำคัญมาก ๆ อีกหนึ่งส่วนไปนั้นก็คือ ‘รากผม’
เครดิตภาพ : https://hairskinbodysoul.files.wordpress.com/2011/04/hair_follicle_cross_section1.jpg
ส่วนสำคัญที่ฝังตัวอยู่ในเนื้อเยื่อของหนังศีรษะ มีรูปร่างคล้ายหลอดเรียกว่า ‘ต่อมรากผม’ ตอนล่างสุดจะมีลักษณะโป่งพองเป็นกระเปราเว้าเข้าด้านในรูปร่างคล้ายคีม เรียกส่วนนี้ว่า Hair Bulb โดยรากผมจะตั้งอยู่บนฐานของเนื้อยึดต่อหรือ Connective Tissue มีลักษณะเป็นมือยื่นเข้าไปในโพลงของ Hair Bulb เรียกว่า ปุ่มปลายแหลมหรือ Papilla ซึ่ง 1 รากผมจะมี 1 ปุ่มปลายแหลมเสมอ ซึ่งส่วนนี้จะเป็นส่วนที่มีเลือดและเส้นประสาทหล่อเลี้ยงทำให้เส้นผมมีการเจริญเติบโตและเกิดเซลล์ใหม่เรื่อย ๆ นอกจากนั้นที่ต่อมรากผมจะมีต่อมน้ำมันหรือ sebaceous gland ห่อหุ้มที่ไปถึงปลายสุดที่ปากรูขุมขน ทำหน้าที่ในการสร้างน้ำมันเพื่อทำให้เส้นผมชุ่มชื่น อ่อนนุ่ม เงางาม สำหรับคนปกติในวัยผู้ใหญ่จะมีต่อมรากผมอยู่ประมาณ 5 ล้านต่อมและจะลดลงเรื่อย ๆ เมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามหากรากผมขาดการดูแลรักษาจะส่งผลให้รากผมอ่อนแอและทำให้เส้นผมมีปัญหาในหลายเรื่อง
- ปัญหาแรก ที่เกิดจากการที่รากผมขาดการดูแลคือ ปัญหาผมร่วง เนื่องจากรากผมขาดสารอาหารทำให้ปุ่มปลายแหลมที่รากผมตายหรือฝ่อ ทำให้หลุดร่วงโดยไม่มีการงอกใหม่ขึ้นมาทดแทนจนกระทั่งกลายเป็นคนหัวล้านในที่สุด หากเปรียบเทียบจะพบว่าเส้นผมของคนหัวล้านจะมีเส้นผมหรือต่อมรากผมไม่เกิน 306 เส้นต่อตารางเซนติเมตร แต่หากเป็นคนทั่วไปในช่วงวัยรุ่นจะมีเส้นผมประมาณ 615 เส้นต่อตารางเซนติเมตร และลดลงเหลือ 435 เส้นต่อตารางเซนติเมตร ซึ่งยังคงเป็นปริมาณที่มากกว่าจำนวนเส้นผมในคนหัวล้านอยู่ดี ดังนั้นจึงควรดูแลรากผมให้แข็งแรงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบาง จนนำไปสู่ปัญหาหัวล้านในอนาคต
- ปัญหาที่สองคือ ปัญหาผมแห้งหรือมันจนเกินไป เกิดจากต่อมน้ำมันสร้างน้ำมันออกมาเคลือบเส้นผมน้อยจนเกินไป แต่ถ้าต่อมไขมันมีการผลิตน้ำมันออกมาในปริมาณมากขึ้นเพื่อชดเชยในส่วนที่แห้งจะส่งผลทำให้ผมและหนังศีรษะมีความมันมากกว่าปกติ ทำให้ไม่สบายหัว รู้สึกเหนอะหนะ จนบ้างครั้งทำให้มีปัญหาผมร่วงและรังแคตามมาในอนาคต
- ปัญหาที่สามคือ เส้นผมเจริญเติบโตจากรากผมได้ไม่เต็มที่ มีทั้งปัญหาเรื่องผมลีบแบน เส้นผมมีขนาดเล็ก หรือไม่เจริญเติบโตเลย
สำหรับสาเหตุที่ทำให้รากผมอ่อนแอนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายสาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่หลายคนปฏิบัติกันเป็นปกติโดยไม่รู้ตัวว่าเป็นการทำร้ายรากผม ได้แก่
-
ใช้แชมพูและผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีส่วนของผมของสารเคมี
ต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เส้นผมและหนังศีรษะมีปัญหาสารเคลือบผมให้นุ่มลื่น เงางาม ทำให้หลายคนหลงเชื่อว่าทำให้เส้นผมแข็งแรง แต่หารู้ไม่ว่าสารเคมีในแชมพูมีส่วนทำร้ายรากผม ซึ่งสารเคลือบผมส่วนใหญ่มักเป็นสารซิลิโคนที่ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำเปล่า ทำให้มีการอุดตันที่รากผม เมื่อสะสมปริมาณมากจะส่งผลให้เซลล์รากผมทำงานผิดปกติ ทำให้เส้นผมเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ลีบแบน มีขนาดเล็กหรือไม่ขึ้นเลย
-
ปล่อยให้หนังศีรษะมัน เพราะความมันจะทำให้อากาศที่หนังศีรษะถ่ายเทได้น้อยลง
ส่งผลให้รากผมรับออกซิเจนได้น้อยกว่าหนังศีรษะปกติ ซึ่งหากเป็นคนที่มีอายุต่อมไขมันบนหนังศีรษะจะขยายใหญ่ขึ้น ทำให้ความมันเข้าไปในอุดตันในรูรากผมจนทำให้รูรากผมมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ เส้นผมจึงลีบแบนลงและมีขนาดเล็กลง ที่สำคัญอาจทำให้หนังศีรษะมีอาการอักเสบอย่างรุนแรง มีอาการคันศีรษะ และหนังศีรษะมีกลิ่นเหม็น
-
สระผมด้วยน้ำอุ่น
จะส่งผลต่อทั้งรากผมและเส้นผมอ่อนแอ เพราะน้ำอุ่นจะทำให้เส้นผมสูญเสียน้ำมันที่เคลือบทำให้หลุดร่วง เปราะ และขาดง่ายขึ้น
-
การใส่หมวกจะทำให้รากผมขาดออกซิเจน
เส้นผมถูกเหนี่ยวรั้งโดยไม่จำเป็น และความอับชื้น ยิ่งถ้าหมวกไม่สะอาด อาจทำให้เกิดเชื้อราและแบคทีเรียบนหนังศีรษะได้ ส่งผลให้เกิดการอักเสบและทำให้เส้นผมร่วงในที่สุด
-
การรวบผมตึงมากเกินไป เป็นการทำให้รากผมถูกดึงอยู่ตลอดเวลา
ถ้ารวบตึงเป็นเวลานานจะทำให้รากผมอ่อนแอนำไปสู่ปัญหาผมร่วงและผมบางบริเวณหน้าผาก นอกจากนี้การรวบผมตึงเกินไป มีผลทำให้เส้นผมเปราะและขาดได้ง่ายขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามนอกจากไม่ควรทำร้ายรากผมให้อ่อนแอแล้ว สิ่งที่ควรเลือกใช้คือ แชมพูและผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีส่วนผสมของสมุนไพรจากธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ปลูกผมที่มีส่วนผสมของสารสกัดดอกอัญชัน วิตามินอี COCO BETAINE และวิตามินบี 5 ซึ่งมีสรรพคุณช่วยเร่งให้ผมขึ้น ยาวเร็วขึ้น มีน้ำหนัก ผมดกดำ รักษาผมร่วม และเพิ่มการไหลเวียนโลหิตใต้หนังศีรษะดีขึ้น ช่วยบำรุงรากผมและเส้นผมให้มีความแข็งแรง ขจัดความมันและความสกปรกออกจากเส้นผม สาเหตุสำคัญที่ทำให้รากผมอ่อนแอ ช่วยลดการอักเสบ แพ้คัน และบำรุงให้ผมมีสุขภาพดี ที่สำคัญคือ ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีจึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และการระคายเคืองเหมาะสำหรับคนที่แพ้ง่าย ดังนั้นก่อนเลือกผลิตภัณฑ์จึงควรดูส่วนผสมให้ดีก่อนว่าใช้สมุนไพรเป็นส่วนผสมหรือไม่ ถ้ามีสมุนไพรเป็นส่วนผสมก็หยิบมาใช้ได้เลยเพราะเป็นการการันตีว่ารากผมของคุณแข็งแรงอย่างแน่นอน